ก่อนอื่นเรามารู้จักความหมายของมันก่อนครับ SEO (Search Engine Optimization) คือ การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และคอนเทนต์ของคุณให้มีคุณภาพ เพื่อให้เว็บไซต์หรือ บทความของคุณ ของคุณพุ่งทะยานมาสู่อันดับแรก ของ google
แล้วคุณก็จะเกิดคำถามว่า ถ้าเว็บไซต์ของคุณขึ้นมาหน้าแรกของ Google หรือ search engine อื่นๆ แล้ว มันดียังไง ?
หากเว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้นๆ ก็หมายความว่า ผู้คนมากมายจะมาเห็นเว็บไซต์คุณ ทำให้ร้านหรือเว็บไซต์ ของคุณมีลูกค้าเพิ่มขึ้น จำไว้เสมอว่า
"เพิ่ม trafic เท่ากับเพิ่มลูกค้า"
โดยข้อดีของการ ทำ seo ก็คือ เราจะได้ลูกค้า เข้ามาแบบฟรีๆ ตลอด 24 ชั่วโมง เห็นไหมล่ะ ประโยชน์ มหาศาลของ seo
เมื่อรู้แล้วว่า seo สำคัญอย่างไร แล้ว คำถามต่อไป จะทำยังไงล่ะ จะให้ เว็บไซต์เรา ขึ้นมาสู่หน้าแรก หรือ ขึ้นมาอันดับที่สูงๆ ในการค้นหา ?
เราจะมาพูดถึง Search Engine อย่าง Google กันนะครับ ซึ่งคนไทยใช้กันเยอะ โดยที่ Google จะส่ง bot ตัวหนึ่ง ซึ่งมีอีกชื่อว่า Spider bot โดยมีวิธีการทำงานของ bot คร่าวๆ ดังนี้
ก่อนเริ่มทำ SEO บนเว็บไซต์ ขั้นแรก คุณต้องคิดก่อนว่า ลูกค้าของคุณจะค้นหาคำว่าอะไรที่เกี่ยวกับเว็บไซต์หรือธุรกิจของคุณ เรียกขั้นตอนนี้ว่า การวางแผนคีย์เวิร์ค มีภาษาอังกฤษเทห์ๆว่า Keywords Planner แล้วคำศัพท์ที่ต้องรู้เกียวกับ Keywords ก็คือ Focus Keywords และ Related Keywords เพื่อนำมาวิเคราะห์หาปริมาณการค้นหาและ การแข่งขันว่าเป็นยังไง แล้วค่อยนำ Keywords ที่เราวิเคราะห์มาเป็นอย่างดีแล้ว มาทำ SEO ต่อไป
ในเมื่อ SEO คือการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และบทความ แสดงว่า Google และ Search Engine อื่นๆ ย่อมมีหลักเกณฑ์การตรวจสอบและให้คะแนนอยู่ โดยฝั่ง Search Engine จะส่งเหล่า Bot เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์คุณเป็นอยู่เรื่อยๆ แล้วดูความเกี่ยวข้องของเนื้อหากับ Keywords ใดบ้าง อีกทั้งโครงสร้างและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์เป็นอย่างไร
วิธีการให้คะแนนอย่างละเอียดนั้นไม่ได้เปิดเผยออกมา แต่มีผู้เชี่ยวชาญ ได้วิเคราะห์ หลักการ ทำงานของGoogle ว่า มีการใช้เกณฑ์อะไรบ้าง สรุปเป็นด้านหลักๆ 3 ด้าน
คือ ด้านเนื้อหา, ด้านโครงสร้างและประสิทธิภาพเว็บไซต์ และด้านความน่าเชื่อถือ ทั้ง 3 ด้านนี้เราต้องทำควบคู่กันไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO ถึงแม้เราจะทำเนื้อหาให้ Google พอใจแล้ว อย่าลืมว่าคนที่อ่านเนื้อหาของเราจริงๆก็คือลูกค้า หรือ คนที่เราอยากให้เจอ เพราะการที่เว็บไซต์จะเกี่ยวข้องกับ Keyword ใดๆ Google จะดูจากความสำคัญของ Keyword ในเนื้อหาที่อยู่บนเว็บ ทั้งปริมาณ Keyword, ตำแหน่งที่ Keyword นั้นปรากฏอยู่ ว่าจะอยู่ใน Title, URL, ส่วนบนล่างของเว็บไซต์ หรือรูปแบบของ Keyword ว่าเป็นหัวข้อ, ตัวหนา, ตัวเอียงหรือ Link เป็นต้น
การทำ Content Marketing โดยการเขียนบทความให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าให้กับผู้ชมเว็บไซต์ ก็มีส่วนช่วยในการทำ SEO ได้ทางหนึ่ง เพราะบทความจะช่วยเพิ่มปริมาณ Keywords บนเว็บไซต์คุณโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่าง
ถ้าคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับธุรกิจขาย รองเท้าวิ่ง การเขียนบทความให้ความรู้ เช่น “วิธีเลือก รองเท้าวิ่งที่เหมาะสำหรับคุณ”, “วิธีเลือกรองเท้าวิ่ง อย่างมืออาชีพ” และลงบทความอื่นอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะช่วยด้าน
Content Marketing แล้วก็จะช่วยด้าน SEO อีกด้วย เว็บไซต์คุณก็จะมีคะแนนความเกี่ยวข้องกับคำว่า รองเท้าวิ่ง มากขึ้น อันดับเว็บไซต์บน Google คำว่า รองเท้าวิ่ง ก็จะดีขึ้นด้วย
*ข้อควรระวัง : หากบทความมี Keyword ถี่มากเกินไปจนผิดธรรมชาติ (Keyword spamming) นอกจากจะสร้างความรำคาญให้ผู้อ่านและสร้างภาพลบให้กับแบรนด์ของคุณแล้ว Google อาจมองว่าเว็บไซต์จงใจหลอกลวง Google และลดความน่าเชื่อของเว็บไซต์หรือแม้กระทั่งนำเว็บไซต์ออกจากการจัดอันดับไปเลย ดังนััน การเขียนเว็บไซต์ต้องเขียนให้เป็นธรรมชาติที่สุด
ส่วนนี้เป็นส่วนที่เกี่ยวกับเทคนิคการทำเว็บไซต์ทั้งในด้านโครงสร้าง ความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพด้านความเร็ว ซึ่งส่วนนี้มักจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลให้ เช่น
เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพูดถึงหรืออ้างอิงมาที่เว็บไซต์จากแหล่งภายนอก ทั้ง Social Network และเว็บไซต์อื่นๆ (ซึ่งส่วนนี้จะมีผลต่อการทำ SEO มากที่สุดอย่างหนึ่ง) รวมถึงอายุของเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์ที่อยู่มานานจะมีความน่าเชื่อถือกว่าเว็บไซต์ที่เพิ่งเปิดใหม่
การเขียนบทความที่มีคุณภาพเพื่อให้เว็บไซต์อื่นใช้ในการอ้างอิง หรือให้แพร่หลายใน Social Network เป็นวิธีที่น่าสนใจและเป็นวิธีที่มีคุณภาพวิธีหนึ่ง ทั้งยังช่วยสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์อีกด้วย
A: บทความ หรือ เว็บไซต์ ของคุณ ต่อให้ดี แค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้า ไม่มีคนเห็น
ยกตัวอย่าง ร้านของคุณ อยู่ในซอยลึก ตกแต่งร้านซะสวยเลย แต่คนไม่เห็น คนไม่เดินผ่าน ยอดขายก็จะไม่ค่อยมี
แต่กลับกัน ร้านของคุณอยู่ ปากซอย ตกแต่งธรรมดา แต่คนเห็นเยอะ คนก็เข้าเยอะ คนเห็นคนเข้าเยอะ ก็ต้องคิดว่าร้านอร่อย ยอดขายก็เยอะตาม
A: หากร้านของคุณไม่มีอะไรเลย ยิ่งต้องเริ่ม และเริ่มให้ไวที่สุด ควรเริ่มทำ seo ตั้งแต่ยังไม่มีเว็บไซต์ เพราะถ้ามีเว็บไซต์แล้วค่อยทำ seo อาจจะยากกว่า และเสียค่าใช้จ่ายเยอะกว่า
A: แนะนำว่า ควรเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำ seo ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อยมาคิด ว่าจะจ้าง หรือ ทำเองดี และถ้าจ้างเราจะได้รู้สเตปการทำงานและจะเป็นผลดีต่อการทำงานของเอเจนซี่ และได้งานที่ตรงใจกับเราด้วย
SEO คือ การทำให้เว็บไซต์ของคุณนั้น ถูกค้นเจอโดย Google และถูกคลิ๊กโดยคนที่สนใจจริงๆ ซึ่งถ้าหากคุณทำ SEO ได้ดีแล้ว เว็บไซต์ที่คุณทุ่มเททำขึ้นมาจะสามารถ ‘ดึงดูด’ ผู้เข้าชมในทุกๆ วันอย่างแน่นอน การทำ SEO นี้เป็นเพียงแค่ขั้นแรกเท่านั้น ขั้นต่อไป เราจะทำยังไง ที่จะพาผู้ชมมาเป็นลูกค้า หรือเป็นแฟนของเว็บไซต์ของเรา โปรดติดตามใน บทความถัดๆไปครับ ถ้ามีสิ่งไหนสงสัย หรืออยากจะแนะนำ ลองคอมเมนต์บอกไว้ที่ด้านล่างได้เลยนะครับ
เราเป็นได้มากกว่าเว็บไชต์ท่องเที่ยว
เพราะเราจะพาคุณไปพบกับการเดินทาง
วิถีใหม่ ที่ลึกเข้าไปถึงแก่น ของ วัฒนธรรม
All Rights Reserved | thaibaan-seo